ผู้นำอารยันชาวพุทธ

พราหมณ์และเชนกำหนดความเป็นอารยันด้วยสถานที่ ภาษา ชาติกำเนิด และอาชีพการงาน ผู้เกิดในดินแดนที่พวกตนกำหนดไว้เท่านั้นจึงจะเป็นอารยัน ถ้าหากเกิดนอกถิ่นนั้นออกไปก็ไม่ใช่อารยัน พราหมณ์และเชนมีความหวงแหน มีมัจฉริยะ ตระหนี่ที่อยู่ ตระหนี่ตระกูล ตระหนี่ลาภ ตระหนี่วรรณะ ตระหนี่ธรรม ในสังคมที่ยกย่องความเป็นอารยัน จึงได้เกิดอารยันกลุ่มใหม่ เป็นอารยันชาวพุทธ มีพระพุทธเจ้าเป็นผู้นำ พระพุทธเจ้าทรงคัดค้านความยึดถือค่านิยมดังกล่าว ทรงให้นัยความเป็นอารยันในแนวใหม่

ผู้นำอารยันของชาวพุทธ พระองค์ทรงถือกำเนิดในชมพูทวีป อินเดียตอนเหนือ มีถิ่นกำเนิดใน ศากยวงศ์ แคว้นสักกะ (เนปาล) อยู่ใต้อาณัติของแคว้นโกศล เป็นบ้านพี่เมืองน้องกับแคว้นโกลิยะ มีแม่น้ำโรหิณีกั้นเขต ทรงเป็นพระโอรสของพระเจ้าสุทโธทนะ ผู้รู้บางคนกล่าวว่า พระเจ้าสุทโธทนะมีเชื้อสายมองโกเลียน (Mongolian stock) สกุลโคตมะ พระมารดาคือพระนางมายาเทวี มีความสัมพันธ์กับเจ้าลิจฉวี เมืองเวสาลี ซึ่งเป็นชนเผ่าเดียวกับศาสดามหาวีระ

ไม่มีข้อมูลว่า พระพุทธเจ้ากับนิครนถ์นาฏบุตร(ศาสดามหาวีระ) มีความสัมพันธ์กันอย่างไร พระศาสดาทั้งสองไม่เคยพบปะสนทนากันเลย ในประวัติศาสตร์ ศากยะกับลิจฉวีเป็นชนกลุ่มเดียวกัน ในกลุ่มมองโกลตะวันออก จะเป็นไปได้หรือไม่ ที่พระศาสดาทั้งสองเป็นพระญาติกันข้างฝ่ายมารดา

ครั้นพระพุทธเจ้าตรัสรู้ ทรงประกาศพระองค์เป็นพุทธะ ซึ่งเป็นพระนามยิ่งใหญ่(อุคคตนาม)ที่หลายคนมักชอบอ้าง ในยุคนั้นมีค่านิยมว่า พระเป็นเจ้าเท่านั้นที่รู้ความจริง มนุษย์ไม่อาจรู้ความจริง พระพุทธเจ้าทวนกระแสความเชื่อที่ว่านั้น ทรงประกาศพระองค์ว่าเป็นสัมมาสัมพุทธะ คือ รู้ความจริงโดยชอบได้ด้วยตนเอง ไม่ต้องไปพึ่งพิงพระเป็นเจ้าที่ไหนเลย จึงปรากฏว่ามีผู้ไปท้าทดสอบความรู้ของพระองค์หลายต่อหลายครั้ง พระองค์ตั้งสังคมของชาวอารยัน คือ อริยสงฆ์ (อริยะ+ สังฆะ, ได้นำระบบสังฆะที่มีอยู่แล้ว มานิยามความเสียใหม่) ประกาศทางสายกลาง ผู้เดินตามทางสายกลางจะมีคุณสมบัติลดลั่นกัน การละกิเลสได้เป็นเกณฑ์ที่ใช้วัดความเป็นอารยันในสังคมใหม่ โดยมีศีล สมาธิ ปัญญา เป็นหลักสำคัญ

พระพุทธเจ้าทรงปฏิเสธค่านิยมหลายอย่าง เช่น “อย่าถามถึงชาติกำเนิด จงถามความประพฤติ” “คนจะเป็นอารยันก็เพราะการกระทำของตนเอง” ทรงให้โอกาสคนทุกวรรณะเข้ามาสู่สังคมของอริยสงฆ์ เมื่อได้มาพัฒนาตนจะกลายเป็นอารยัน (อริยชาติ) มีหลักการดำเนินชีวิตสำหรับอารยัน ๘ วิธี (อริยอัฏฐังคิกมรรค หรือ อารยอัษฎางคิกมรรค) ความจริงสำหรับอารยัน ๔ อย่าง (จตุราริยสัจจ์) การแสวงหาแบบอารยัน (อริยปริเยสนา) กฎระเบียบสำหรับอารยัน (อริยวินัย) ทรัพย์สำหรับอารยัน (อริยทรัพย์) เป็นต้น

ครั้นตรัสชวนผู้เข้ามาสู่สังคมใหม่ จะมีสำนวนว่า พระองค์ใช้ภาษาชัดเจน นำเสนอยักเยื้องหลายวิธี พระดำรัสแจ่มชัดเหมือนหงายของที่คว่ำ เปิดของที่ปิด บอกทางแก่ผู้หลงทาง หรือ ส่องไฟในที่มืดให้คนตาดีมองเห็น ด้วยหวังให้เขามองเห็นรูปได้ ผู้ได้ฟังพระดำรัสแล้ว ย่อมฉลาดกว่าเมื่อยังไม่ได้ฟัง

พระองค์ได้ประกาศคำสอนในเมืองโกสัมพี เมืองสาวัตถี เมืองเวสาลีและเมืองราชคฤห์ อินเดียเหนือ ในช่วงปลายพุทธกาล เมืองจัมปา เมืองราชคฤห์ เมืองสาวัตถี เมืองสาเกต เมืองโกสัมพี และเมืองพาราณสี มีบทบาทด้านการเมืองการปกครอง

ใส่ความเห็น